สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้หรือลังเลอยู่
ลองค่อยๆไปก็แล้วกันน่ะ
คอลัมน์ คนไทยทำได้
โดย บัณฑิต อึ้งรังษี
1.อาชีพคุณจะต้องเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเองสนใจและรัก
สังเกต นะครับ ผมบอกว่า *คุณเองสนใจ* ไม่ใช่คนอื่นๆ รอบตัวที่คิดว่าน่าจะใช่ อันนี้คุณต้องถามหัวใจคุณเอง ถามตนเองว่าพรสวรรค์ประจำตัวตามธรรมชาติของคุณคืออะไร แน่นอน ถ้าคุณอยากเป็นนักบาสเกตบอลระดับนานาชาติ สามารถเล่นใน NBA ของอเมริกาเหมือน *เหยา หมิง* ของจีน แต่คุณสูงแค่ 165 เซนติเมตร เหมือนผม ก็อาจเป็นเรื่องที่ลำบากหน่อย เพราะไม่ใช่พรสวรรค์ตามธรรมชาติของคุณ (แต่ไม่ใช่ ว่าเป็นไปไม่ได้) ถ้าคุณทำงานในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ นานๆ เข้าคุณก็จะเบื่อ และในที่สุดคุณก็จะเกลียดงานนั้น แล้วไฟก็จะมอด ทำงานไปก็เพื่อมีเงินเลี้ยงตนและครอบครัวอย่างเดียว แต่ไม่ได้ประสบถึงความยินดีปรีดาในการทำสิ่งที่ตนเองรัก
การ ทำในสิ่งที่ตนเองรักแล้วประสบความสำเร็จในเรื่องนั้น มีคนยกย่องให้เกียรติ และให้ค่าตอบแทน สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี เป็นความรู้สึกแห่งความสำเร็จที่แท้จริง
2.ศึกษาด้วยตนเองจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ถ้า คุณสนใจงานประเภทไหนมากๆ คุณอยากจะเก่งในด้านนั้น คุณอยากจะได้ข้อมูลเพิ่ม เพื่อที่จะเป็นเลิศในด้านนั้น หัวสมองคุณจะจดจำในเรื่องนั้นได้อย่างง่ายดาย
ถ้า คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดก็ตาม แม้ว่าจะเป็นสาขาย่อย เล็ก หรือไม่ค่อยมีใครสนใจ ย่อมสามารถทำเงินได้มากกว่า คนที่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญแน่นอน
การที่คุณเริ่มต้น ที่ความรักในสิ่งที่ทำ ทำให้คุณอยากเก่งในเรื่องนั้นขึ้นเรื่อยๆ มีกำลังใจที่จะศึกษาจนเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับจังหวัด ระดับประเทศ หรือระดับโลก
3.รับใช้ผู้อื่น
กฎ สองข้อแรกไม่มีประโยชน์เลยถ้าคุณไม่ได้รับใช้ผู้อื่น หรือทำให้ชีวิตผู้อื่นดีขึ้นในทางใดทางหนึ่ง แค่การทำสิ่งที่ตนรัก และเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้านนั้น จะไม่ให้รายได้ตอบแทนคุณได้ ถ้าคุณไม่ได้รับใช้ผู้อื่น ยิ่งคุณรับใช้ผู้อื่นมากเท่าไร หรือยิ่งมีคนได้ประโยชน์จากคุณและการบริการหรือ สินค้าของคุณมากเท่าไรคุณก็ยิ่งรวยมากเท่านั้น
ข้อ แนะนำ ถามตนเองสองคำถามนี้เสมอ จนหาคำตอบเจอ
1.เราจะได้รับค่าตอบแทนจากการทำ (สิ่งที่ คุณรัก) ได้อย่างไร? หรือ
2.เราจะเสนอบริการหรือสินค้าให้กับผู้อื่นโดยการทำ (สิ่งที่คุณรัก) ได้อย่างไร?
สิ่งที่ควรตระหนัก
" อาชีพยังเปลี่ยนได้ แม้เลือกแล้ว มันไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่"
ผู้พันแซนเดอร์ส แห่ง KFC เริ่มต้น กิจการยิ่งใหญ่ของเขาเมื่ออายุ 60 ปี หลังจากที่ล้มเหลวมาทั้งชีวิต
เครดิต: http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=298994&chapter=38
ลองค่อยๆไปก็แล้วกันน่ะ
คอลัมน์ คนไทยทำได้
โดย บัณฑิต อึ้งรังษี
1.อาชีพคุณจะต้องเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเองสนใจและรัก
สังเกต นะครับ ผมบอกว่า *คุณเองสนใจ* ไม่ใช่คนอื่นๆ รอบตัวที่คิดว่าน่าจะใช่ อันนี้คุณต้องถามหัวใจคุณเอง ถามตนเองว่าพรสวรรค์ประจำตัวตามธรรมชาติของคุณคืออะไร แน่นอน ถ้าคุณอยากเป็นนักบาสเกตบอลระดับนานาชาติ สามารถเล่นใน NBA ของอเมริกาเหมือน *เหยา หมิง* ของจีน แต่คุณสูงแค่ 165 เซนติเมตร เหมือนผม ก็อาจเป็นเรื่องที่ลำบากหน่อย เพราะไม่ใช่พรสวรรค์ตามธรรมชาติของคุณ (แต่ไม่ใช่ ว่าเป็นไปไม่ได้) ถ้าคุณทำงานในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ นานๆ เข้าคุณก็จะเบื่อ และในที่สุดคุณก็จะเกลียดงานนั้น แล้วไฟก็จะมอด ทำงานไปก็เพื่อมีเงินเลี้ยงตนและครอบครัวอย่างเดียว แต่ไม่ได้ประสบถึงความยินดีปรีดาในการทำสิ่งที่ตนเองรัก
การ ทำในสิ่งที่ตนเองรักแล้วประสบความสำเร็จในเรื่องนั้น มีคนยกย่องให้เกียรติ และให้ค่าตอบแทน สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี เป็นความรู้สึกแห่งความสำเร็จที่แท้จริง
2.ศึกษาด้วยตนเองจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ถ้า คุณสนใจงานประเภทไหนมากๆ คุณอยากจะเก่งในด้านนั้น คุณอยากจะได้ข้อมูลเพิ่ม เพื่อที่จะเป็นเลิศในด้านนั้น หัวสมองคุณจะจดจำในเรื่องนั้นได้อย่างง่ายดาย
ถ้า คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดก็ตาม แม้ว่าจะเป็นสาขาย่อย เล็ก หรือไม่ค่อยมีใครสนใจ ย่อมสามารถทำเงินได้มากกว่า คนที่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญแน่นอน
การที่คุณเริ่มต้น ที่ความรักในสิ่งที่ทำ ทำให้คุณอยากเก่งในเรื่องนั้นขึ้นเรื่อยๆ มีกำลังใจที่จะศึกษาจนเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับจังหวัด ระดับประเทศ หรือระดับโลก
3.รับใช้ผู้อื่น
กฎ สองข้อแรกไม่มีประโยชน์เลยถ้าคุณไม่ได้รับใช้ผู้อื่น หรือทำให้ชีวิตผู้อื่นดีขึ้นในทางใดทางหนึ่ง แค่การทำสิ่งที่ตนรัก และเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้านนั้น จะไม่ให้รายได้ตอบแทนคุณได้ ถ้าคุณไม่ได้รับใช้ผู้อื่น ยิ่งคุณรับใช้ผู้อื่นมากเท่าไร หรือยิ่งมีคนได้ประโยชน์จากคุณและการบริการหรือ สินค้าของคุณมากเท่าไรคุณก็ยิ่งรวยมากเท่านั้น
ข้อ แนะนำ ถามตนเองสองคำถามนี้เสมอ จนหาคำตอบเจอ
1.เราจะได้รับค่าตอบแทนจากการทำ (สิ่งที่ คุณรัก) ได้อย่างไร? หรือ
2.เราจะเสนอบริการหรือสินค้าให้กับผู้อื่นโดยการทำ (สิ่งที่คุณรัก) ได้อย่างไร?
สิ่งที่ควรตระหนัก
" อาชีพยังเปลี่ยนได้ แม้เลือกแล้ว มันไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่"
ผู้พันแซนเดอร์ส แห่ง KFC เริ่มต้น กิจการยิ่งใหญ่ของเขาเมื่ออายุ 60 ปี หลังจากที่ล้มเหลวมาทั้งชีวิต
เครดิต: http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=298994&chapter=38